ฤดูฝน
ทำไมคนเราถึงชอบเปรียบเทียบว่าฟ้าหลังฝน ย่อมดีเสมอ ทำไมคนถึงคิดว่าฝนที่กำลังตกอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี สิ่งใดที่ทำให้คนมองว่าการที่ฝนตกลงมานั้นไม่ได้ช่วยและมีประโยชน์อะไรกับโลกมนุษย์
ขณะที่ผมกำลังเขียนเรื่องนี้อยู่นั้น ฝนกำลังตกอยู่พอดี มันทั้งชุ่มชื้นทั้งกายและใจ และผมก็มองว่าการที่เราได้เห็นวิวัฒนาการก่อนที่ฝนจะตกนั้น มันช่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก
อะไรคือวิวัฒนาการของฝน ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรารู้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วว่า เม็ดน้ำที่กระหน่ำหรือร่วงลง ( เรียกตามอัตราความแรงของเม็ดฝน ) ลงกระทบสู่พื้นดินนั้นมาจากก้อนเมฆ ก่อนก้อนเมฆจะรวมตัวกันนั้นก็มาจากไอน้ำค่อย ๆ ผนึกกำลังและรวมตัวเป็นก้อนเมฆ และไอน้ำเหล่านั้นก็มาจากการระเหยที่มีที่มาจากแหล่งน้ำต่าง ๆ นั่นเอง แล้วเราจะได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งเหล่านั้นล่ะ
สิ่งที่เราสามารถจะเรียนรู้ได้จากมันก็คือ ความเป็นไปและลำดับขั้นตอนของธรรมชาติและวิถีชีวิตนั่นเอง ทุก ๆ สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ต่างก็มีลักษณะและวิวัฒนาการคล้าย ๆ กับฝน ตัวอย่าง ยุง กว่าที่จะกลายมาเป็นตัวยุงนั้น ก็มาจากไข่ ไข่ค่อย ๆ ฟักตัวเป็นลูกน้ำ ลูกน้ำก็พัฒนาเป็นตัวอ่อน และตัวอ่อนก็กลายมาเป็นยุง
ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน มีเกิด มีแก่ มีเจ็บและก็ตายในที่สุด แต่ถ้าถามว่ามีแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนนั้น คำตอบที่ได้ก็คือ ทุก ๆ ชีวิตบนโลกมีวิถีที่คล้าย ๆ กัน แต่ที่พยายามจะทำตัวให้แตกต่างก็คือสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า มนุษย์
อะไรคือสิ่งที่มนุษย์พยายามทำให้แตกต่าง คำตอบที่ได้ก็คือ การไม่ยอมรับในกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ การแข็งขืนกับสิ่งที่ธรรมชาติกำหนด การเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับธรรมชาติ การกำหนดว่าธรรมชาติเป็นสิ่งที่เลวร้ายและสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มนุษย์พยายามอย่างยิ่งยวดก็คือการต้องการจะมีอำนาจเหนือกว่าธรรมชาติ
ซึ่งผลลัพธ์ที่มนุษย์ได้รับก็คือ สึนามิ , แผ่นดินไหว , โคลนถล่ม , พายุทอร์นาโด และอื่น ๆอีกมากมายที่ไม่สามารถจะยกตัวอย่างมาได้หมด มนุษย์ไม่คิดหรอกว่าไอ้การที่ฝนตกนั้น เป็นการสร้างและให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งพืชพรรณ สรรพสัตว์ทั้งหลายและที่สำคัญที่สุดคือตัวมนุษย์เอง
หากมนุษย์บางคนยังจำได้และระลึกถึง ในอดีตตอนเด็กๆ เวลาที่ฝนตกนั้นเป็นช่วงเวลาหนึ่งแห่งความสนุกสนาน หัวเราะและเจ็บปวด ( จากการถูกแม่ตี )
มันยังเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้เราและมิตรสหายร่วมก๊วนได้มีความทรงจำเด็ด ๆ และยากที่จะลืม หากยังนึกไม่ออกว่าฝนมีความสำคัญอย่างไร สำหรับคนที่เคยมีแฟน ( ขอย้ำ ) และกำลังมีแฟน คุณต้องเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความโรแมนติกที่ได้มากับฤดูฝนแน่นอน
ทั้งการที่ฝ่ายชายเอาเสื้อคลุมเท่ห์ มาบังฝนให้แฟนสาว หรือการที่ฝ่ายหญิงยืนถือร่มรอแฟนคนรักมารับกลับบ้านหลังจากเลิกงาน ล้วนแล้วแต่เป็นการแสดงออกที่แสนโรแมนติกที่มีที่มาจากฤดูฝนทั้งสิ้น
ยังไม่หมดหรอกครับ หากคุณเป็นแฟนพันธ์แท้ของหนังและละคร คุณจะต้องผ่านตาฉากคลาสสิก 1 ฉากในหนังหรือละครโรแมนติกทั้งหลาย ฉาก ๆ นั้นก็คือ การที่พระเอกและนางเอกไปเที่ยวด้วยกัน ผ่านไปสักพักฝนก็ตกลงมาโดยไม่มีสาเหตุ พระเอกและนางเอกก็วิ่งตากฝนไปอาศัยในกระท่อมหรือบ้านร้าง ( แล้วแต่ผู้กำกับจะสร้างสรรค์ ) หลังจากนั้นคงไม่ต้องบรรยายว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้วผู้เขียนก็บอกได้เลยว่าฤดูฝนเนี่ยเหงาพอ ๆ กับฤดูหนาวเลยที่เดียว แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วอะไรทำให้คนไม่ชอบฤดูฝน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯและปริมณฑล
คำตอบที่ได้ก็คือ มันเป็นอุปสรรคต่อการทำงานที่เร่งรีบ การออกไปทำงานไม่ได้ เอกสารเปียก รถติดและอื่น ๆ อีกมากมายที่มนุษย์จะยกข้ออ้างมากล่าวหาสายฝน
แต่ผู้เขียนก็อยากให้มันเป็นแค่ความคิดช่วงสั้น ๆ และอยากให้ทุกคนพยายามจะเข้าใจและยอมรับว่ามันก็แค่สิ่งที่ธรรมชาติมอบให้แก่เราอีกรูปแบบหนึ่ง
และผู้เขียนก็หวังว่าจะมีคนหลายคนที่เวลาเปียกฝนแล้วจะมีความสุขกับการโดนฝนสัมผัสใบหน้า ร่างกายและหัวใจ
เนื้อหามีสาระดีนะ
ตอบลบ